ยินดีต้อนรับสู่บล็อกเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสำหรับครูค่ะ

หน่วยที่ 3

หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 คอมพิวเตอร์และระบบคอมพิวเตอร์
ประวัติของคอมพิวเตอร์
            เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานในปัจจุบันได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่องมาหลายร้อยปีจากอุปกรณ์ที่ไม่มีกลไกซับซ้อนกลายมาเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์มีศักยภาพสูงสามารถใช้ด้านการคำนวณประมวลผลและใช้ในการควบคุมการผลิตงานทางด้านอุตสาหกรรมในโรงงานต่างๆ
            เครื่องคอมพิวเตอร์ก็ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงให้ดีมากยิ่งขึ้น มีการพัฒนาจากระบบใหญ่จนสามารถพัฒนาเป็นระบบเล็กหรือเรียกกันว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลสามารถทำงานไม่ด้อยกว่าเครื่องใหญ่อุปกรณ์ชิ้นแรกซึ่งเป็นที่มาของคอมพิวเตอร์เริ่มจากการคิดค้นของชาวจีน มีการประดิษฐ์ลูกคิด(Abacus)
ความหมายของคอมพิวเตอร์
            คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือหรืออุปกรณ์ประเภทอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานด้วยชุดคำสั่ง  ชุดคำสั่งหรือโปรแกรมต่างๆสามารถเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายได้หลายแบบรวมทั้งเครือข่ายอินเตอร์เน็ตด้วยลักษณะเด่นของคอมพิวเตอร์คือมีศักยภาพสูงในการคำนวณประมวลผลข้อมูลทั้งที่เป็นตัวเลข  รูปภาพ  ตัวอักษร  และเสียงทำให้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานได้อย่างกว้างขวาง
ส่วนประกอบของคอมพิวเตอร์
            คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์  หมายถึง  ส่วนประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์รวมอุปกรณ์ต่อพวงต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์ที่เราสามารถมองเห็นและสัมผัสได้  เช่น ตัวเครื่อง   จอภาพ  คีย์บอร์ด และเมาส์ เป็นต้น
     จำแนกหน้าที่ของฮาร์ดแวร์ต่างๆสามารถแบ่งออกเป็นส่วนสำคัญ  5  ส่วน คือ
     1.หน่วยรับข้อมูลเข้า เป็นวัสดุอุปกรณ์ต่างๆที่นำมาเชื่อมต่อทำหน้าที่ป้อนสัญญาณเข้าสู่ระบบเพื่อกำหนดให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามความต้องการทั้งวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวข้อง  เช่น แป้นพิมพ์  เมาส์ ซีดีรอม ไมโครโฟน
     2.หน่วยประมวลผลกลาง ทำหน้าที่เกี่ยวกับการคำนวณทั้งทางตรรกะและคณิตศาสตร์ รวมทั้งการประมวลข้อมูลตามคำสั่งที่ได้รับ
    3.หน่วยความจำ ทำหน้าที่เก็บข้อมูลหรือคำสั่งที่ส่งมาจากหน่วยรับข้อมูลเพื่อเตรียมส่งไปประมวลผลยังหน่วยประมวลผลกลางและเก็บผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลแล้วเพื่อเตรียมส่งไปยังหน่วยแสดงผล  
    4. หน่วยแสดงผล  ทำหน้าที่แสดงผลข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ทำการประมวลหรือผ่านการคำนวณแล้ว
    5.อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ  เป็นอุปกรณ์ที่นำมาต่อพ่วงเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น เช่น โมเด็ม  แผงวงจรเชื่อมต่อ  เครือข่าย เป็นต้น
ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
     1. มีความเร็วในการทำงานสูง เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานในปัจจุบันสามารถประมวลผลคำสั่งในช่วงเวลา  1 วินาทีได้มากกว่าหนึ่งร้อยล้านคำสั่งจึงใช้ในงานคำนวณต่างๆได้อย่างรวดเร็ว เช่นการฝากถอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม
     2. มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง  สามารถทำงานได้ตลอด24 ชั่วโมง เป็นสัปดาห์ หรือเป็นปีโอกาสเครื่องเสียน้อยมาก ใช้แทนกำลังคนได้มากมาย
     3. มีความถูกต้องแม่นยำตามโปรแกรมที่สั่งงานและข้อมูลที่ใช้
     4. เก็บข้อมูลได้มาก ไม่ต้องใช้เอกสารและตู้เก็บ
     5. สามารถโอนย้ายข้อมูลจากเครื่องหนึ่งไปอีกเครื่องหนึ่งโดยผ่านระบบเครือข่ายได้อย่างรวดเร็วช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน
ระบบคอมพิวเตอร์
           ระบบคอมพิวเตอร์ หมายถึงกรรมวิธีที่คอมพิวเตอร์ทำการใดๆกับข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่เป็นประโยชน์ตามความประสงค์ของผู้ใช้มากที่สุด เช่น  ระบบทะเบียนประวัติอาชญากรรมของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สามารถตรวจสอบได้โดยการประมวลผลของระบบคอมพิวเตอร์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
ฮาร์ดแวร์  หมายถึง  ตัวเครื่องและอุปกรณ์ส่วนต่างๆสามารถสัมผัสและจับต้องได้ ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 4  ส่วน ดังนี้คือ
1.            ส่วนประมวลผล (processor)
2.            ส่วนความจำ(memory)
3.            อุปกรณ์รับเข้าและส่งออก(input-output devices)
4.            อุปกรณ์หน่วยเก็บข้อมูล(storage device)
หน่วยประมวลผลกลาง
  หน่วยประมวลผลกลาง หรือ เรียกว่า ซีพียู (CPU) มีความหมายทางด้านฮาร์ดแวร์  2อย่างด้วยกันคือ
     1.ตัวชิป ที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์
     2.ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์หรือกล่องเครื่องที่มีซีพียูบรรจุอยู่
   ความหมายส่วนที่ 2 ถ้ามองทางด้านเทคนิคแล้วจะเป็นความหมายที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากตัวซีพียูเป็นชิปที่เหมือนส่วนสมองของระบบคอมพิวเตอร์
หน่วยความจำ
            1. หน่วยความจำหลัก คือ  หน่วยเก็บข้อมูลและคำสั่งต่างๆของเครื่องคอมพิวเตอร์ประกอบด้วยชุดคำความจำข้อมูลที่สามารถบอกตำแหน่องที่เก็บข้อมูลหรือคำสั่ง ข้อมูลจะถูกนำไปเก็บไว้และสามารถถูกนำออกมาใช้ในการประมวลผลในภายหลังโดยซีพียูทำหน้าที่ในการนำข้อมูลเข้าและนำออกจากหน่วยความจำ
     การทำงานต้องใช้พื้นที่ของหน่วยความจำ  ขนาดความจุของหน่วยความจำคำนวณได้จากค่าจำนวนพื้นที่ที่สามารถใช้ในการเก็บข้อมูลหน่วยความจำมีมากจะช่วยให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วมากขึ้นด้วย
       หน่วยความจำหลักแบ่งได้  2 ประเภทคือ
1.หน่วยความจำแบบ  (แรม)
2.หน่วยความจำแบบ  (รอม)
หน่วยความจำแบบ(แรม)
      หน่วยความจำแรมเป็นหน่วยความจำที่ต้องอาศัยกระแสไฟฟ้าเพื่อรักษาข้อมูล ข้อมูลหรือแฟ้มข้อมูลจะถูกเก็บไว้ชั่วคราวขณะทำงานจะอยู่ได้นานจนกว่าจะปิดเครื่องคอมพิวเตอร์หรือไม่มีกระแสไฟฟ้าป้อนส่งให้กับเครื่อง เมื่อปิดเครื่องหรือไฟฟ้าดับข้อมูลที่เก็บไว้จะถูกลบหายไปเราเรียกว่า  หน่วยความจำแบบลบเลือนได้
หน่วยความจำแบบ(รอม)
      เป็นหน่วยความจำที่ใช้ในการเก็บโปรแกรมหรือข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ข้อมูลที่ถาวรไม่ขึ้นกับไฟฟ้าที่ป้อนไม่สามารถเขียนข้อมูลลงไปเก็บไว้ได้เราเรียกว่า หน่วยความจำแบบไม่ลบเลือน
            2. หน่วยความจำรองหน่วยความจำชนิดนี้มีไว้สำหรับสำรองหรือทำงานกับข้อมูลและโปรแกรมขนาดใหญ่เนื่องจากขนาดของหน่อยความจำหลักมีจำกัดหน่วยความจำสำรองสามารถเก็บไว้ได้หลายแบบ เช่น แผ่นบันทึก(floppy disk) จานบันทึกแบบแข็ง(hard disk) แผ่นซีดีรอม(CD-ROM) และจานแสงแม่เหล็ก เป็นต้น
จานบันทึกข้อมูล
            ตัวจานบันทึกข้อมูลแบบแข็ง   ประกอบด้วยแผ่นจานแม่เหล็กตั้งแต่หนึ่งแผ่นจนถึงหลายแผ่นและเครื่องขับจาน(Hard Disk Drive) เป็นส่วนอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ มีมอเตอร์ทำหน้าที่หมุนแผ่นจานแม่เหล็กด้วยความเร็วสูง
แผ่นบันทึกหรือฟลอปปี้ดิสก์
              แผ่นบันทึกข้อมูล  เป็นหน่วยความจำรองตัวแผ่นทำด้วยพลาสติกชนิดอ่อน มาตรฐานที่นิยมใช้ในขนาดนี้จะมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3.5 นิ้ว ความจุข้อมูล 1.44 เมกะไบต์ บรรจุในซองพลาสติกแข็งเพื่อป้องกันกับแผ่นบันทึกไม่ให้เสียหายง่าย
ซีดีรอม
       แผ่นซีดี เป็นแผ่นบันทึกข้อมูลที่ให้เครื่องคอมพิวเตอร์อ่านข้อมูลที่บันทึกไว้ออกมาใช้ไม่สามารถบันทึกข้อมูลลงไปได้ใช้อ่านได้อย่างเดียว ลักษณะคล้ายแผ่นซีดีเพลงใช้ระบบเสียงเลเซอร์ในการอ่านข้อมูลที่เก็บเป็นได้ทั้งตัวอักษร ตัวเลข เสียง และภาพก็ได้
ดีวีดี
         เป็นแผ่นซีดีที่ใช้เทคโนโลยีใหม่ล่าสุดสามารถเก็บข้อมูลได้ไม่ต่ำกว่า 4.7 จิกะไบต์คาดหมายว่าแผ่นซีดีจะถูกนำมาใช้แทนซีดี- รอม เลเชอร์ดิสก์ หรือแม้แต่วิดีโอเทป
จอภาพ
     เป็นอุปกรณ์แสดงข้อมูลผลลัพธ์ที่เกิดจากการประมวลผลจากเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถแสดงผลได้ทั้งตัวหนังสือ ภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหวโดยทั่วไปนิยมใช้แบบจอสี
แผงแป้นอักขระหรือแป้นพิมพ์
    เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญของเครื่องคอมพิวเตอร์สามารถรับเข้าข้อมูลจากการกดแป้นพิมพ์เพื่อส่งต่อไปให้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ แป้นพิมพ์ที่นิยมใช้จะมี 101 แป้น และแยกแป้นอักขระและตัวเลขออกจากกัน ส่วนบนจะเป็นแป้นคำสั่งพิเศษเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น
เมาส์
      เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายตัวหนู ส่วนของสายสัญญาณจากตัวอุปกรณ์ที่ต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์ ใช้ในการควบคุมตัวชี้  จะมีปุ่มควบคุม 2 ปุ่ม
    1.ปุ่มซ้ายมือถ้ากดหนึ่งครั้งหมายถึงการเลือกและถ้ากดสองครั้งติดต่อกันหมายถึงสั่งให้โปรแกรมหรือสั่งรูปที่เลือกทำงาน
    2.ปุ่มขวามือถ้ากดให้แสดงฟังก์ชันพิเศษโดยใช้ตัวชี้เป็นตัวเลือกฟังก์ชันที่ต้องการได้
บุคลากร
                        บุคลากรคอมพิวเตอร์หมายถึงกลุ่มบุคคลที่ทำงานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์และโปรแกรม  นักวิเคราะห์เป็นผู้วิเคราะห์ปัญหาและออกแบบระบบใหม่ให้ดีกว่าเดิม  ผู้บริหารเป็นผู้ควบคุมจัดการระบบคอมพิวเตอร์ทั้งหมดให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและสามารถใช้บริการระบบสารสนเทศได้อย่างสะดวกและยังเป็นการป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นเนื่องจากความไม่รู้ของผู้ใช้ได้ บุคลากรคอมพิวเตอร์เป็นส่วนสำคัญหนึ่งของระบบคอมพิวเตอร์เพราะแต่เดิมนั้นคอมพิวเตอร์เป็นสิ่งที่ใช้ยากต้องมีความรู้ในระดับผู้ชำนาญการที่เดียว
บุคลากรคอมพิวเตอร์ที่สำคัญ
ผู้ดูแลระบบ    บุคคลที่ถูกว่าจ้างเพื่อที่จะดูและจัดการระบบหรือเครือข่ายคอมพิวเตอร์หน้าที่ของผู้ดูแลระบบมีความโครงการ
นักวิเคราะห์   บุคลากรด้านการวิเคราะห์และออกแบบระบบงาน จะมีหน้าที่วิเคราะห์ความต้องการของผู้ใช้รวมไปถึงผู้บริหารของหน่วยงานนั้นๆ
นักเขียนโปรแกรม    เมื่อนักวิเคราะห์ระบบทำงานการวิเคราะห์ระบบงานเสร็จสิ้นก็จะส่งต่อมายังผู้ที่ชำนาญในเรื่องของการเขียนโปรแกรมโดยเฉพาะเพื่อสร้างระบบงานนั้นให้ออกมาใช้งานได้จริงๆ
วิศวกรระบบ    บุคลากรที่ทำหน้าที่ออกแบบ  สร้าง ซ่อมบำรุงและดูแลรักษาฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ให้สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการต้องมีความรู้
 วิศวกรเครือข่าย   เป็นผู้ออกแบบและดูแลระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมากในปัจจุบันเพราะการทำงานบนคอมพิวเตอร์กำลังเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นการทำงานบนเครือข่าย
ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ระดับสูง  ผู้ที่ใช้งานคอมพิวเตอร์ที่สามารถประยุกต์โปรแกรมเพื่อสร้างผลงานต่างๆตามต้องการ
ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ทั่วไป   ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป สามารถทำงานตามหน้าที่ในหน่วยงานนั้นๆ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น