หน่วยที่
5 ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ความหมายระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ในปัจจุบันการใช้คอมพิวเตอร์ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องใช้ประจำวันสำนักงาน เริ่มจากการใช้แก้ไขในงานเอกสาร เก็บข้อมูล
เป็นเครื่องใช้ทำงานคนเดียว
เมื่อสำนักงานหรือองค์กรนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นเริ่มมีการใช้คอมพิวเตอร์หลายรูปแบบบางครั้งอาจมีการทำงานเหมือนกันหรือแตกต่างกันก็ได้ บางลักษณะงานที่ต้องใช้ข้อมูลร่วมกัน ถ้าเจ้าหน้าที่แต่ละคนเก็บข้อมูลไว้ในเครื่องของตนเอง
ความซ้ำซ้อนของของข้อมูลย่อมเกิดขึ้น
ทำให้เสียเวลามากขึ้น
บางครั้งข้อมูลไม่ตรงกันจึงทำให้มีการหาวิธีเพื่อทำการเชื่อมโยงต่อระบบคอมพิวเตอร์เหล่านั้นเข้าด้วยกัน
องค์ประกอบของการส่งข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งจะต้องมีองค์ประกอบที่สำคัญ 5 ส่วนคือ
-
ผู้ส่งข้อมูล (Sender) ทำหน้าที่ส่งข้อมูล
-
ผู้รับข้อมูล (Receiver) ทำหน้าที่รับข้อมูล
-
ข้อมูล (Data) ข้อมูลที่ผู้ส่งข้อมูลต้องการส่งไปยังผู้รับข้อมูล อาจอยู่ในรูปของข้อความ
เสียง ภาพเคลื่อนไหว
-
สื่อนำข้อมูล (Medium) ทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการขนถ่ายข้อมูล เช่น สายเคเบิล ใยแก้วนำแสง อากาศ
-
โปรโตคอล (Protocol) กฎหรือวิธีที่ถูกกำหนดขึ้นเพื่อการสื่อสารข้อมูลในรูปแบบตามวิธีการสื่อสารที่ตกลง
กันระหว่าง ผู้ส่งข้อมูล กับ ผู้รับข้อมูล
ประโยชน์ของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
ในยุคแรกๆ ของการใช้คอมพิวเตอร์นั้น
คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะแยกการทำงานโดยลำพังเมื่อต้องการนำข้อมูลจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง มาใช้ทำงานในคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง ก็ต้องอาศัยวิธีการที่ยุ่งยาก เช่น นำเอกสารที่พิมพ์
ออกมาจากเครื่องแรกไปป้อนใหม่ทางแป้นพิมพ์ของเครื่องที่สองหรือบันทึกข้อมูลจากเครื่องแรกลงในแผ่นบันทึกข้อมูล
แล้วจึงค่อยนำไปเปิดในเครื่องที่สองต่อมามีการเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์หลายเครื่องเข้าด้วยกัน
ระบบเครือข่ายในบริเวณเฉพาะที่
การเชื่อมต่อเครือข่ายให้ประโยชน์ในด้านการใช้ข้อมูลร่วมกัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ข้อมูลในฐานข้อมูลเดียวกันทำให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบันมากที่สุด และยังให้ประโยชน์ในการใช้ทรัพยากรร่วมกัน เช่น
อุปกรณ์ประเภทเครื่องพิมพ์
เครื่องกราดตรวจ
นอกจากนี้ยังทำงานเอกภาพและประสิทธิภาพมากขึ้น
ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
เนื่องจากระบบนี้เป็นระบบใหญ่ที่มีการเชื่อมต่อโยงกันทั่วประโลกผลประโยชน์และผลกระทบจึงมีกว้างไกลมาก
สิ่งที่เรารู้จักและนำมาใช้ประโยชน์ทุกวันนี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องซึ่งจะนำซึ่งสิ่งใหม่ๆ
อีกมากมาย ตัวอย่างประโยชน์ที่เรานำมาใช้ในปัจจุบัน ได้แก่ การสื่อสารด้วยไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (
E-mail
) การสืบค้นข้อมูลจากเว็บไซต์
การศึกษาแบบ ( E- learning ) การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ( E-commerce
) และการธนาคารอิเล็กทรอนิกส์ (E-banking)
ระบบเครือข่ายร่วมปฏิบัติ
เป็นระบบเครือข่ายที่ทำให้เกิดการรวมพลังของคอมพิวเตอร์เครือข่ายมาทำงานร่วมกัน ขณะที่มีการนำระบบนี้มาใช้ในงานวิจัยเพื่อถอดรหัสพันธุกรรมมนุษย์คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่กระจ่ายอยู่ในประเทศต่างๆ
ทั่วโลกสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการวิจัยได้
และแต่ละเครื่องจะได้รับส่วนแบบของงานคำนวณมาทำ
สมรรมนะของคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในเครือข่ายจึงยิ่งกว่าซุปเปอร์คอมพิวเตอร์ใดๆ ในโลก
ทำให้งานวิจัยสามารถสำเร็จลุล่วงได้ในเพียงไม่กี่ปี แทนที่จะต้องใช้เวลานานนับ
สิบๆปี
ประเภทของระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์
สื่อสารของคอมพิวเตอร์อาจมีขนาดใหญ่หรือขนเครือข่ายาดเล็กอาจเป็นส่วนบุคคลหรือสาธารณะและอาจจะเป็นไร้สายหรือใช้สายหรือใช้ทั้งสองแบบร่วมกัน
ในทำนองเดียวกันเครือข่ายขนาดเล็กอาจจะมีการเชื่อมต่อกับเครือข่ายขนาดใหญ่
เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้งานในปัจจุบันสามารถแยกได้ 3 ประเภทดังนี้
1.เครือข่ายแลนหรือเครือข่ายบริเวณเฉพาะที่
(LAN หรือLocal Area Network)
เป็นเครือข่ายที่นิยมใช้ภายในสำนักงานอาคารเดียวกัน
และองค์กรที่อยู่ในบริเวณเดียวกันหรือใกล้กัน
เป็นเครือข่ายระยะใกล้การเชื่อมต่อสามารถใช้สายเคเบิล สายโคแอกซ์ หรือสายใยแก้ว
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานขององค์กรและสามารถใช้อุปกรณ์ต่างๆ ร่วมกันได้ ตัวอย่างของเครือข่ายนี้ได้แก่ เครือข่ายคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัย
โรงเรียน และบริษัทหรือห้างร้านต่างๆ
2. เครือข่ายแมนหรือเครือข่ายบริเวณนครหลวง
(MAN หรือ ( Metropolitan Area Network )
เป็นเครือข่ายที่มีการเชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้ที่อยู่ในเขตเมืองเดียวกัน
เป็นเครือข่ายขนาดกลางที่สร้างขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกแกประชาชนของเมืองนั้นหรือเขตการปกครองนั้น
เช่น เครือข่ายของรัฐต่างๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา
3.เครือข่ายแวนหรือเครือข่ายบริเวณกว้าง
(WAN หรือ Wide Area network)
เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงระบบเข้าด้วยกันในระยะไกล ครอบคลุมพื้นที่ทั้งประเทศ ระหว่างประเทศ
หรือทั่วโลก โดยอาศัยอุปกรณ์ดาวเทียม
สายเส้นใยแก้วนำแสง หรือคลื่นไมโครเวฟ เป็นตัวกลางในการสื่อสารระบบเครือข่ายประเภทนี้ที่เรารู้จักกันดีก็คือเครือข่ายอินเตอร์เน็ต
รูปแบบการเชื่อมโยงเครือข่ายคอมพิวเตอร์
การเชื่อมโยงคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานร่วมกัน จะมีองค์ประกอบหลัก 2 ส่วนด้วยกันคือ ส่วนของฮาร์ดแวร์หรือส่วนเครือข่ายเชิงกายภาพ
และส่วนของซอฟต์แวร์หรือส่วนการจัดการ คือ
1.ฮาร์ดแวร์หรือส่วนเครือข่ายเชิงกายภาพ
หรืออุปกรณ์เครือข่ายได้แก่ สายนำสัญญาณ
แผ่นวงจร เครือข่าย ตัวเครื่องคอมพิวเตอร์
2.ซอฟต์แวร์หรือส่วนการจัดการเชิงตรรกะ
เป็นซอฟต์แวร์ที่กำหนดกฎเกณฑ์ในการจัดการเกี่ยวกับ สายนำสัญญาณ แผ่นวงจร
1.แบบดาว ( Star
Topology )
เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะต่อผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า ฮับ ( Hub )
ซึ่งเป็นจุดกลางในการติดต่อเป็นเครือข่ายที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน
เพราะติดตั้งและดูแลรักษาระบบง่าย ราคาวัสดุอุปกรณ์ก็ไม่แพง
2.แบบวงแหวน ( Ring Topology )
เป็นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ล่ะเครื่องเชื่อมต่อกันเป็นลักษณะแบวงแหวน
3.บัส ( Bus Topology)
เป็นการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องต่อเชื่อมอยู่บนสายสัญญาณเดียวกัน
เป็นการเชื่อมต่อสายแบบเส้นตรงจากเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องแรกแล้วโยงสายยังเครื่องที่
2
3… ตามลำดับในลักษณะการต่อแบบอนุกรมการเชื่อมต่อแบบนี้ทำได้ง่าย
4.แบบต้นไม้ ( Tree
Topology )
มีลักษณะเชื่อมโยงคล้ายกับโครงสร้างแบบดาวแต่จะมีโครงสร้างแบบต้นไม้ โดยมีสายนำสัญญาณแยก
ออกไปเป็นแบบกึ่งไม่เป็นวงรอบโครงสร้างแบบนี้จะเหมาะกับการประมวลผลแบบกลุ่มจะประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับต่างๆ
กันอยู่หลายเครื่องแล้วต่อกันเป็นชั้นๆดูภาพกับแผนภาพองค์กร
แต่ละกลุ่มจะมีโหมดแม่โหมดลูกในกลุ่มนั้นที่มีการสร้างสัมพันธ์กัน
การสื่อสารข้อมูลจะผ่านตัวกลางไปยังสถานีอื่นๆ ได้ทั้งหมด
เพราะทุกสถานีอยู่บนทางเชื่อมและรับส่งข้อมูลเดียวกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น